Last updated: 6 ก.พ. 2562 | 1813 จำนวนผู้เข้าชม |
1. รถชนครั้งแรก
หยุดก่อน
เราขอเริ่มด้วยการที่ “รถชนรถ” กันก่อน หลังจากตั้งสติได้แล้ว อย่างแรกที่ต้องทำเลยคือ “หยุดรถ” ทันทีไม่ว่าจะเป็น กรณีไหนก็ตาม จะชนมาก จะชนน้อย ถ้ายังไม่รู้ว่าใครเป็นคนผิด ห้ามขยับรถเด็ดขาด สำหรับถนนที่เป็นทางหลวงส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรปิด ดังนั้น การหยุดรถเอาไว้ก่อนจะเป็นตัวช่วยบ่งบอกได้ด้วยว่า ใครเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก โดยที่เราไม่ต้องกังวลว่าบาดแผลที่ได้รับ จะเล็กหรือจะใหญ่
โทรแจ้งตำรวจ
โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งอุบัติเหตุ จากนั้นถ่ายรูปเอาไว้ หลายๆมุม หากตกลงกันได้แล้วให้ขยับรถเข้าข้างทาง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ แต่หากตกลงกันไม่ได้ อันนี้ห้ามขยับเลย ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจะทำการตีเส้นจากจุดที่เกิดอุบัติเหตุอย่างแท้จริง เพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบว่าบริเวณนี้ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยจะวัดจากจุดที่รถเรามาและจุดที่รถคู่กรณีมาบรรจบกับเรา หรือเกิดการชนกันนั่นเอง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราสามารถย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุได้
โทรแจ้งประกัน
โทรติดต่อ ประกันภัยรถยนต์ แจ้งสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะเก็บหลักฐาน รูปการณ์ของอุบัติเหตุ แล้วก็สุดแล้วแต่รูปแบบประกันของท่านว่าเป็นระดับไหน ที่จะเคลมประกันได้ต่างกัน ที่สำคัญที่สุดเลยคือหากมีคนเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ต้องโทรเรียกรถพยาบาลก่อนเลย แล้วจึงทำตามขั้นตอนอื่น ๆ
2. ขับรถชนสิ่งอื่น ๆ
ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก๋าก็พลาดกันได้ หากเผลอชนต้นไม้ รั้วบ้าน หรือเสา สิ่งที่เราต้องทำมีเพียงข้อเดียวคือโทรแจ้งประกันภัย ยกเว้นแต่ถ้าคุณชนหนักจนบาดเจ็บ โทรเรียกรถพยาบาลก่อนเลย
ปกติในกรมธรรม์จะมีการระบุไว้ ถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ใช่พาหนะด้วยกันเช่น ชนเสา , ชนประตู , ชนต้นไม้ , ชนกำแพง , ชนคน , ชนสิ่งมีชีวิต , ชนฟุตบาท , ชนราวสะพาน หรือชนสิ่งใด ๆ ก็ตามที่ติดอยู่บนถนน เราจะไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกอย่างแน่นอน
แต่หากเป็นการเคลมเพราะรถมีรอยขีดข่วน ไม่ว่าจะโดนคนแกล้งหรือเศษหินกระเด็นใส่ รถเฉี่ยวกิ่งไม้ เฉี่ยวสายไฟ เฉี่ยวลวดหนาม และอื่น ๆ ที่หาคู่กรณีไม่ได้หรือแจ้งเหตุการณ์ไม่ชัดเจน เราอาจจะต้องจ่ายเงินในกรณีนั้น ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ของเราด้วย หรือขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทประกัน
9 ธ.ค. 2562
4 ม.ค. 2563
6 ก.พ. 2562
9 ต.ค. 2562