Last updated: 19 ก.พ. 2562 | 2623 จำนวนผู้เข้าชม |
รถยนต์ 1 คัน ต้องทำทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน
1. ต้องต่อประกันภัยภาคบังคับ หรือ เรียกว่า พ.ร.บ
2. ต้องต่อภาษีรถยนต์ประจำปี
3. ทำประกันภัย หรือเรียกว่าประกันภัยภาคสมัครใจ
ประเภท 1, 2, 3,ประเภท 5 (2+, 3+) หรือแบบประกันที่ท่านเลือกตามความเหมาะสมต่อการใช้รถ รถยนต์ 1 คัน ต้องมี พ.ร.บ. หรือที่เราเรียกว่า ประกันภัยภาคบังคับ หากท่านหยิบเอกสารในรถขึ้นมา และเปิดดู จะเขียนว่า..
" ตารางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ " กรณีการเกิดเหตุ มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สามารถเบิกจ่ายค่ารักษา ค่าชดเชย จาก พ.ร.บ. ได้ และส่วนเกินค่ารักษา สามารถเบิกได้จากประกันภัยภาคสมัครใจได้ค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมต่อ พ.ร.บ. เพราะใช้ในการต่อภาษี หากไม่มี พ.ร.บ. ท่านจะถูกปรับในวงเงิน สูงสุดถึง 10,000 บาท เลยทีเดียว
เมื่อท่านมี พ.ร.บ. แล้ว ท่านสามารถนำ พ.ร.บ. ไปใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ค่ะ ซึ่งสามารถไปต่อได้ที่กรมขนส่งทางบกจังหวัดได้ทั่วประเทศไทย เอกสารที่ใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ได้แก่ ส่วนท้ายหรือหาง พ.ร.บ. ตัวจริง หรือ สำเนา พ.ร.บ และ รายการจดทะเบียนรถยนต์ (สำเนาทะเบียนรถยนต์หรือเล่มจริง)
แต่สำหรับรถเก๋ง, กระบะ, รถตู้ ที่อายุเกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่อายุเกิน 5 ปี รวมถึง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ที่ขาดต่อภาษีนานเกิน 1 ปี ท่านจะต้อง ได้รับการตรวจสภาพรถ ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)
สุดท้าย ที่รถทุกคันควรจะต้องมี นั่นคือ ประกันภัยภาคสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2, 2+ ประกันชั้น 3, 3+ ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อแบบประกันที่มีความคุ้มครอง ในเรื่องของการมีค่าซ่อมรถ หรือไม่มีก็ได้ค่ะ ที่สำคัญในส่วนเกินจากค่ารักษา ของ พ.ร.บ. ท่านสามารถเบิกเพิ่มเติมได้จากประกันภัยภาคสมัครใจค่ะ
อย่าลืมนะคะ จ่ายเบี้ยเพียงน้อยนิด แต่สามารถคุ้มครองได้วงเงินหลักแสนถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียวค่ะ
" ประกันมีไว้ไม่ได้ใช้ ดีกว่าเวลาใช้แล้วไม่มีนะคะ "
โดย คุณบ๊วย อรวรรณ ธรรมาวุฒิกุล ตัวแทนและนายหน้าผู้ให้คำปรึกษางานประกันวินาศภัย หจก.บีเอสเค สมาร์ท กรุ๊ป
อ้างอิงบทความโดย 724insure คลิก
10 พ.ค. 2562
22 เม.ย 2562
17 ก.ค. 2563
25 มิ.ย. 2562